นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ ดร. ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ซึ่งกำกับดูแลโครงการเกษตรอัจฉริยะ ลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานและนักวิจัยที่เกี่ยวข้องในโครงการเกษตรอัจฉริยะ ในแปลงเกษตรกรที่ได้รับการรับรองการปฏิบัติทางเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร (GAP) จากกรมวิชาการเกษตร ในจังหวัดระยอง เพื่อหาแนวทางในการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะที่พัฒนาโดยกรมวิชาการเกษตร มาขยายผลเพื่อแก้ไขปัญหาความแปรปรวนของภูมิอากาศในพื้นที่ปลูกทุเรียนหลักในภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลผลิตจากโครงการเกษตรอัจฉริยะ กรมวิชาการเกษตร ในปี 2566 ซึ่งได้วิจัยพัฒนา“อุปกรณ์ควบคุมภูมิอากาศอัจฉริยะ (Smart Climate Controller)” แก้ไขปัญหาความแปรปรวนภูมิอากาศในสวนทุเรียน ในฤดูกาลผลิต 2567 จากข้อมูลการตรวจรับรอง เพื่อออกใบรับรองสุขอนามัยพืชการส่งออกทุเรียน ของสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ในฤดูกาลผลิต 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 9 พฤษภาคม 2567 มีการส่งออกจำนวน 1,173 ตู้/ซิปเมนท์ ปริมาณ 19,098.51ตัน มูลค่า 2,735.54 ล้านบาท ซึ่งผลกระทบของภูมิอากาศมีผลโดยตรงต่อปริมาณและคุณภาพของทุเรียน และทำให้ทุเรียนสุกแก่เร็วกว่าช่วงเวลาที่ได้กำหนดไว้ และคงเหลือผลผลิตหลังช่วงกลางเดือน พฤษภาคมอีกบางส่วนแต่ก็ไม่มาก อาจทำให้ปริมาณผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรลดลง

ปุ๋ยอินทรีย์เคมีแบรนด์ ปลาเทราต์ เป็นอีกแบรนด์ที่ไทยยูเนี่ยนโบนได้รับ
ความไว้วางใจจากลูกค้าให้เราผลิตปุ๋ยอินทรีย์เคมี ที่มีวัตถุดิบหลัก
มาจากกระดูกสัตว์ป่น จึงทำให้มีธาตุอาหารครบถ้วน เหมาะสำหรับไม้พืช 
ไม้ผล เมืองไทย โดยเฉพาะทุเรียน เพราะปุ๋ยอินทรีย์เคมีแบรนด์ปลาเทราต์ 
นั้นมีหลายสูตรให้เลือก ใส่ต้นทุเรียนตามช่วงเวลาที่ต้องการบำรุงต้น และ 
บำรุงดอก และผล เพื่อผลผลิตที่ได้คุณภาพตามที่ใจต้องการ

กิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการ ภายใต้ MOU โดยคณาจารย์จากคณะเทคโนโลยีการเกษตร สจล. ซึ่งมี ผศ.ดร.ลำแพน ขวัญพูล, ผศ.ดร.สมศักดิ์ ครามโชติ และผศ.ดร.พัชราภรณ์ สุวอ ให้การต้อนรับและนำคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัย Jilin Agricultural Science and Technology University (JASTU) ประกอบด้วย Prof.Dr. Yin Baishuang, Prof.Dr. Wang Shuai, Prof.Dr. Sun Pengcheng และ Dr. Li Longfei ไปดูงานระบบสมาร์ตฟาร์มสำหรับ
จัดการสวนทุเรียน และไม้ผลเขตร้อน เช่น ฝรั่ง ลำไย และมะพร้าวน้ำหอม ณแปลงเรียนรู้การทำเกษตร ปั้มบางจาก อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง จาก@มุมมองในฐานะผู้บริโภคของอาจารย์จาก JASTU มองว่าคุณภาพทุเรียนไทยคืออันดับ 1 แต่บ้านเรายังเน้นผลิตและขายในลักษณะผลสดมากกว่า
การแปรรูป ซึ่งผลสดเกิดการเน่าเสียได้ง่าย และยังมีข้อจำกัดในเรื่องของอายุการวางจำหน่าย อุตสาหกรรมแปรรูปน่าจะเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าทุเรียน
และลดการสูญเสียได้ค่ะ อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรยังมีสัดส่วนไม่มาก คงต้องมีงบประมาณจากภาครัฐและเอกชนมาร่วมกันพัฒนาส่งเสริมและผลักดันให้ไทยส่งออกสินค้า
เกษตรมูลค่าสูงและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น อาทิ อาหารแห่งอนาคต สินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูป และสารสกัดจากผลผลิตการเกษตร เพื่อให้สามารถ
สร้างรายได้ให้กับประเทศ และกระจายรายได้สู่เกษตรกร ขอขอบคุณ คุณสาโรจน์ กัมพุสิริกุล เป็นอย่างสูงที่เปิดสวน และจัดหาผลไม้คุณภาพดี รสชาติอร่อยมาต้อนรับคณะดูงานในครั้งนี้ด้วยนะคะ